การตลาดแบบเชื่อมโยงกับแพคเกจสินค้า หรือที่เรียกว่า Omni-Channel

การช้อปปิ้งที่สะดวก และราบรื่น เป็นความต้องการอันดับต้น ของลูกค้ายุคปัจจุบัน แต่ละร้านค้าจึงมองหาการทำตลาดที่จะสร้างความแตกต่าง รวมถึงการมอบประสบการณ์ที่จะตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครอบคลุม การตลาดนี้มีชื่อเรียกว่า Omni-Channel ซึ่งเป็นการตลาดสุดสำคัญ ในการทำธุรกิจแห่งยุคเทคโนโลยี

ความหมายของการตลาดแบบ Omni-Channel
การทำตลาดแบบ Omni-Channel คือ แนวทางการทำการตลาดที่เน้นการสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงและต่อเนื่องระหว่างช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยลูกค้าสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์หรือธุรกิจได้ทุกช่องทางที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, สื่อสังคมออนไลน์, ร้านค้าปลีก, หรือแม้แต่การบริการลูกค้าผ่านการพูดคุยช่องทางออนไลน์ เพื่อความลื่นไหลในการเลือกซื้อของ

วิธีการเชื่อมโยงการทำตลาดแบบ Omni-Channel กับแพ็กเกจสินค้า

• นำเสนอแพ็กเกจสินค้าผ่านหลายช่องทาง

ความสำคัญของ Omni-Channel คือ การสร้างแพ็กเกจสินค้าที่เหมาะสมกับการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น ลูกค้าสามารถซื้อแพ็กเกจสินค้าผ่านเว็บไซต์ พร้อมทั้งสั่งซื้อสินค้าร่วมในแพ็กเกจเดียวกันในแอปพลิเคชันหรือแม้แต่ที่ร้านค้าจริง ได้อย่างสะดวก

• แนะนำแพ็กเกจตามข้อมูลของลูกค้า

การเชื่อมโยงข้อมูลจากช่องทางต่างๆ ในระบบ Omni-Channel ทำให้รู้ถึงความต้องการและพฤติกรรมในการซื้อของของลูกค้า  เช่น หากลูกค้าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าออนไลน์ ทางแบรนด์อาจแนะนำแพ็กเกจที่รวมอุปกรณ์เสริม เช่น สายไฟ, ตัวแปลง หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ ในราคาพิเศษผ่านช่องทางออนไลน์ หรือที่ร้านค้าจริงด้วย

• การโปรโมทโปรโมชั่นข้ามช่องทาง

การทำโปรโมชั่นให้ลูกค้าสามารถใช้สิทธิ์ได้จากหลายช่องทาง เป็นอีกวิธีหนึ่งที่เชื่อมโยง Omni-Channel กับแพ็กเกจสินค้าได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น แบรนด์เสนอโปรโมชั่น “ซื้อ 1 แพ็กเกจ สินค้า 2 รายการ” ผ่านเว็บไซต์ และเมื่อลูกค้ามาถึงร้านค้าก็สามารถเลือกสินค้าหรือเพิ่มสินค้าภายในแพ็กเกจได้

• การสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อในทุกช่องทาง

หากลูกค้าทำการสั่งซื้อแพ็กเกจสินค้าออนไลน์ ลูกค้าต้องได้แพคเกจเดียวกันในร้านค้าจริงด้วย โดยเป็นข้อมูลที่สามารถดึงจากระบบออนไลน์มาที่ร้านได้ เช่น ลูกค้าซื้อแพ็กเกจสินค้าออนไลน์ (เช่น ชุดทำอาหาร) และเลือกวิธีการรับสินค้าคือการไปที่ร้านค้าจริง ลูกค้าควรจะสามารถตรวจสอบสถานะการสั่งซื้อได้จากแอปฯ และรับสินค้าในแพ็กเกจเดียวกันที่ร้านค้า

• สร้างแพ็กเกจสินค้าพิเศษตามช่องทาง

แบรนด์สามารถสร้างแพ็กเกจสินค้าที่เหมาะสมกับลักษณะของแต่ละช่องทาง เพื่อดึงดูดลูกค้าในแต่ละแพลตฟอร์ม ตัวอย่างเช่น หากลูกค้าซื้อสินค้าผ่านแอปบนมือถือ ทางแบรนด์อาจเสนอโค้ดส่วนลดหรือแพ็กเกจสินค้าพิเศษที่แตกต่างกับช่องทางอื่นได้ เพื่อการดึงดูดลูกค้าที่ต่างกันในแต่ละแพลตฟอร์ม

ประโยชน์ของการเชื่อมโยง Omni-Channel กับแพ็กเกจสินค้า

• เพิ่มยอดขาย

การเสนอแพ็กเกจสินค้าที่เชื่อมโยงกับช่องทางต่างๆ จะช่วยเพิ่มการขาย โดยเฉพาะการจัดหลายสินค้าหรือบริการที่ลูกค้าต้องการ ให้รวบรวมอยู่ในชุดเดียว

• สร้างความสะดวกสบายให้ลูกค้า

ลูกค้าจะรู้สึกสะดวกสบายในการเลือกซื้อแพ็กเกจที่ตอบโจทย์จากหลายช่องทาง โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปร้านค้า หรือติดต่อหลายช่องทาง

• การตลาดที่ตรงเป้าหมาย

การใช้ข้อมูลที่ลูกค้าทำการซื้อจากช่องทางต่างๆ ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนข้อเสนอและแพ็กเกจให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะตัวของลูกค้าแต่ละคนได้เป็นอย่างดี

• ประสบการณ์ลูกค้าไร้รอยต่อ

ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่ราบรื่นไม่ว่าจะซื้อสินค้าผ่านช่องทางใดก็ตาม ช่วยเพิ่มประทับใจและเชื่อมั่นในการกลับมาซื้อสินค้าซ้ำ

การตลาดแบบ Omni-Channel นี้ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบโจทย์ลูกค้าในการซื้อสินค้าได้รอบด้าน ซึ่งจะทำให้ได้รับภาพลักษณ์ที่ดีในการขายสินค้า ซึ่งถือเป็นการผสมผสานการขายทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

สนใจติดต่อผลิตกล่องแพคเกจจิ้งพรีเมี่ยม

คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline

Add Line : @Tumtook

>> คลิ๊กดูราคาผลิตกล่องลูกฟูก