6W1H คืออะไร? เข้าใจการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ตอบโจทย์กลยุทธ์การตลาด

ทำความรู้จักกับ 6W1H หลักการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคที่ทรงพลัง และเห็นผลได้มากที่สุด

6W1H เป็นหนึ่งในเครื่องมือวางแผนและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจในยุคปัจจุบัน สามารถช่วยแก้ปัญหา การพัฒนากลยุทธ์ หรือแม้กระทั่งการทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า  โดยหลักการของ 6W1H ประกอบไปด้วยคำถาม 7 ข้อ ได้แก่ What, Why, Who, Where, When, Which, How ซึ่งการตั้งคำถามเหล่านี้ จะช่วยให้เข้าใจและปรับตัวเข้ากับความต้องการของลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น

การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบ 6W1H

  1. What (อะไร):
    ลูกค้าต้องการอะไร หรือมีปัญหาอะไรที่ธุรกิจสามารถช่วยแก้ไขได้

    • ตัวอย่าง: ลูกค้ากำลังมองหาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ หรือกำลังมองหาอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย
    • ประโยชน์: ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจความต้องการหลักของลูกค้า เพื่อพัฒนาสินค้าหรือบริการที่ตอบโจทย์ตรงจุด
  2. Why (ทำไม):
    อะไรคือแรงจูงใจที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า หรือทำไมถึงยังไม่ตัดสินใจ

    • ตัวอย่าง: ลูกค้าซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพเพราะต้องการป้องกันโรคในระยะยาว หรือบางคนลังเลเพราะราคาสูง
    • ประโยชน์: ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อสร้างกลยุทธ์โน้มน้าว เช่น การให้ข้อมูลเพิ่มคุณค่าหรือการจัดโปรโมชัน
  3. Who (ใคร):
    ลูกค้าคือใคร มีคุณลักษณะหรือโปรไฟล์แบบไหน

    • ตัวอย่าง: ลูกค้าอาจเป็นวัยทำงานที่มองหาความสะดวกสบาย หรือเป็นกลุ่ม Gen Z ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน
    • ประโยชน์: ช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุกลุ่มเป้าหมายชัดเจน และออกแบบแคมเปญหรือผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับพวกเขา
  4. Where (ที่ไหน):
    ลูกค้าชอบซื้อสินค้าจากช่องทางใด หรือพวกเขาใช้เวลาที่ไหนบ่อยที่สุด

    • ตัวอย่าง: ลูกค้าชอบช้อปผ่านแอปพลิเคชัน หรือเลือกซื้อสินค้าที่ร้านค้าปลีกใกล้บ้าน
    • ประโยชน์: ทำให้ธุรกิจวางแผนการจัดจำหน่าย หรือโฟกัสช่องทางการขายได้แม่นยำขึ้น
  5. When (เมื่อไหร่):
    ลูกค้ามักตัดสินใจซื้อในช่วงเวลาใด หรือช่วงไหนที่พวกเขาเปิดใจต่อการขายมากที่สุด

    • ตัวอย่าง: ช่วงโปรโมชั่นวันเงินเดือนออก หรือช่วงเทศกาลลดราคาประจำปี
    • ประโยชน์: ธุรกิจสามารถกำหนดเวลาแคมเปญส่งเสริมการขายหรือการสื่อสารการตลาดได้อย่างเหมาะสม
  6. Which (อันไหน):
    ตัวเลือกแบบไหนที่ลูกค้าให้ความสำคัญ หรือพวกเขาเปรียบเทียบตัวเลือกใดบ้าง

    • ตัวอย่าง: ลูกค้าเปรียบเทียบสินค้าระหว่างสองแบรนด์ในเรื่องราคาและคุณภาพ
    • ประโยชน์: ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจจุดเด่นและจุดด้อยของตัวเองเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
  7. How (อย่างไร):
    ลูกค้าต้องการกระบวนการซื้อที่ง่ายและสะดวกแบบไหน หรือพวกเขาต้องการบริการเสริมอะไร

    • ตัวอย่าง: ลูกค้าชอบบริการจัดส่งที่รวดเร็วและระบบชำระเงินที่สะดวก
    • ประโยชน์: ช่วยให้ธุรกิจออกแบบ Customer Journey ให้ตอบสนองความคาดหวังของลูกค้า

ประโยชน์ของ 6W1H ในการวางแผนการตลาด

  1. เจาะลึกความต้องการ:
    6W1H ช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า และสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์ได้
  2. สร้างกลยุทธ์การตลาดที่แม่นยำ:
    ด้วยข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ 6W1H ธุรกิจสามารถวางแผนแคมเปญที่เหมาะสมกับพฤติกรรมและลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย
  3. ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า:
    การเข้าใจลูกค้าในทุกมิติช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงประสบการณ์การซื้อขายและการให้บริการให้ดีขึ้น
  4. ลดต้นทุนในการทำตลาด:
    เมื่อเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า การลงทุนในแคมเปญหรือผลิตภัณฑ์จะมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดความสูญเปล่าจากการทำตลาดที่ไม่ตรงจุด

การวิเคราะห์rพฤติกรรมลูกค้าด้วย 6W1H

  • การวิเคราะห์เริ่มต้นจาก What (อะไร) คำถามนี้คือการตั้งต้นเพื่อค้นหาว่าลูกค้าของคุณต้องการอะไร พวกเขากำลังเผชิญปัญหาอะไร หรือสิ่งใดที่พวกเขาคาดหวัง การรู้ “สิ่งที่ลูกค้าต้องการ” จะช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ตอบโจทย์ได้โดยตรง ตัวอย่างเช่น หากลูกค้ากำลังมองหาผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ไขปัญหาสุขภาพ การพัฒนาสินค้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติอาจเป็นทางออกที่ดี
  • ต่อมาคือ Why (ทำไม) ซึ่งช่วยให้เราเข้าใจเหตุผลเบื้องหลังพฤติกรรมของลูกค้า เช่น ทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อสินค้า เหตุผลนี้อาจเกิดจากปัจจัยทางอารมณ์ เช่น ความมั่นใจในแบรนด์ หรือปัจจัยทางเหตุผล เช่น ราคาหรือคุณภาพสินค้า การเข้าใจ “ทำไม” จะช่วยให้ธุรกิจปรับการสื่อสารและข้อเสนอให้ตรงกับความต้องการได้ดียิ่งขึ้น
  • เมื่อรู้ความต้องการและเหตุผลเบื้องหลังแล้ว คำถามถัดมาคือ Who (ใคร) หรือใครคือลูกค้าของคุณ การรู้จักกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงลักษณะเฉพาะตัวของพวกเขา เช่น อายุ รายได้ ความสนใจ หรือแม้แต่ไลฟ์สไตล์ ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญในการสร้างกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม และทำให้คุณสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุดยิ่งขึ้น
  • Where (ที่ไหน) เป็นอีกหนึ่งคำถามที่สำคัญ ซึ่งช่วยให้คุณเข้าใจว่าลูกค้าชอบซื้อสินค้าจากที่ไหน หรือใช้เวลาอยู่ในพื้นที่ใดบ่อยที่สุด พฤติกรรมเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจเลือกช่องทางการขายที่เหมาะสม เช่น หากลูกค้าส่วนใหญ่ใช้เวลาในแพลตฟอร์มออนไลน์ การเลือกขายสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียหรือ e-commerce อาจเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ
  • When (เมื่อไหร่) คือการวิเคราะห์ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการขายสินค้า โดยพิจารณาว่าลูกค้ามักตัดสินใจซื้อในช่วงเวลาใด เช่น ช่วงโปรโมชั่นหรือเทศกาลสำคัญ การกำหนดจังหวะเวลาในการทำแคมเปญการตลาดให้ตรงกับพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย
  • Which (อันไหน) ช่วยให้คุณเข้าใจว่าลูกค้าเปรียบเทียบสินค้าหรือบริการอย่างไร และอะไรคือปัจจัยที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจเลือก การรู้ว่าลูกค้าเปรียบเทียบสินค้าโดยดูจากราคา คุณภาพ หรือชื่อเสียงของแบรนด์ จะช่วยให้ธุรกิจปรับจุดเด่นของสินค้าให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
  • สุดท้ายคือ How (อย่างไร) คำถามนี้ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจถึงกระบวนการซื้อหรือการตัดสินใจของลูกค้า เช่น พวกเขาต้องการบริการจัดส่งที่รวดเร็วหรือไม่ หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจซื้อ การวิเคราะห์นี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถออกแบบ Customer Journey ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6W1H เป็น เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค ที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้าได้อย่างรอบด้าน นำไปสู่การสร้างกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์และตรงเป้าหมาย ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและความประทับใจในแบรนด์ หากนำไปใช้อย่างถูกต้อง 6W1H จะเป็นอาวุธลับที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง


อย่ารอช้า! สนใจผลิตอุปกรณ์ออกบูธ และกล่องแพคเกจจิ้ง ติดต่อโรงพิมพ์ Tumtook ได้เลยทันที!
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook

Comment Box

บทความดีๆที่แนะนำ

การสั่งผลิต กระดาษรองจาน เป็นวิธีสร้างเอกลักษณ์ให้กับธุ...

ท่ามกลางธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบร...

การออกแบบกล่องกระดาษใส่อาหาร เป็นตัวช่วยที่สำคัญในธุรกิ...

กล่องฟอยล์ เป็นหนึ่งในเทคนิคการตกแต่งบรรจุภัณฑ์ที่ได้รั...

สมัครงาน กับ Tumtook

กรอกข้อมูลให้สมบูรณ์