Burger King และ McDonald’s เป็นสองแบรนด์แฮมเบอร์เกอร์ที่แข่งขันกันมายาวนาน แต่แทนที่ Burger King จะเดินตามรอย McDonald’s แล้วพยายามเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แบรนด์กลับเลือกใช้กลยุทธ์ที่ตรงกันข้ามเพื่อตอกย้ำความแตกต่างและสร้างฐานลูกค้าของตัวเอง แนวทางนี้เป็นไปตามแนวคิดที่ แจ็ก เทราต์ และ อัล รีส อธิบายไว้ในหนังสือด้านกลยุทธ์การตลาด โดยระบุว่า “หากคุณเป็นอันดับสอง การลอกเลียนแบบผู้นำโดยตรงจะไม่ทำให้คุณชนะ” Burger King จึงตัดสินใจเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไป ซึ่งส่งผลให้กลยุทธ์การตลาดของแบรนด์กลายเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
Burger King กับกลยุทธ์ “อยู่คนละฟากกับผู้นำ”
McDonald’s เป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ที่เป็นมิตรกับครอบครัวและเด็ก ๆ โดยมีโซนของเล่น เมนู Happy Meal และมาสคอต Ronald McDonald เป็นจุดขายสำคัญ ในขณะที่ Burger King ตระหนักว่าการพยายามแข่งขันในตลาดเดียวกันอาจไม่ใช่แนวทางที่ดีที่สุด แทนที่จะเป็นร้านอาหารสำหรับทุกคน Burger King ตัดสินใจสร้างจุดยืนที่แตกต่างด้วยการโฟกัสไปที่กลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่
Burger King จึงปรับกลยุทธ์โดยการกำจัดโซนของเล่นออกจากร้าน และเน้นการโปรโมตแฮมเบอร์เกอร์ที่มีรสชาติเข้มข้นกว่า จุดขายหลักของ Burger King คือ “Flame-Grilled Burgers” หรือเบอร์เกอร์ที่ย่างบนเตาถ่าน ซึ่งให้รสชาติที่แตกต่างจาก McDonald’s ที่ใช้วิธีทอด เน้นความเป็นเอกลักษณ์และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ต่างออกไป
กลยุทธ์ความแตกต่าง สร้างตลาดของตัวเอง
Burger King ตระหนักว่าหากพยายามเอาชนะ McDonald’s ในด้านความนิยมของครอบครัวและเด็ก ๆ ย่อมเป็นเรื่องยาก เพราะ McDonald’s ได้สร้างความแข็งแกร่งในตลาดนี้มายาวนานแล้ว แทนที่จะเดินเกมแบบเดียวกัน Burger King เลือกที่จะทำตรงกันข้าม โดยเจาะกลุ่มลูกค้าที่ McDonald’s ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก การปรับกลยุทธ์ในลักษณะนี้ช่วยให้ Burger King สามารถสร้างฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น และลดการพึ่งพาเด็ก ๆ เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ซึ่งทำให้แบรนด์มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการทำตลาด
- McDonald’s: เน้นตลาดครอบครัวและเด็ก มีเมนูที่เข้าใจง่ายและเป็นมิตรกับทุกเพศทุกวัย
- Burger King: เน้นวัยรุ่นและผู้ใหญ่ โปรโมตภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า และสร้างเมนูที่แตกต่าง
เปรียบเทียบการทำตลาดกับแบรนด์อื่นๆ
กลยุทธ์ของ Burger King ไม่ใช่ตัวอย่างเดียวของการทำตลาด โดยใช้แนวทางตรงข้ามกับผู้นำ ในหลายอุตสาหกรรม แบรนด์ที่ต้องการแข่งขันกับผู้เล่นรายใหญ่เลือกใช้วิธีเดียวกัน เช่น
- YouTube vs. TikTok: YouTube เน้นวิดีโอยาว ในขณะที่ TikTok โฟกัสวิดีโอสั้น
- MK สุกี้ vs. สุกี้ตี๋น้อย: MK เน้นครอบครัว ส่วนสุกี้ตี๋น้อยเจาะตลาดวัยรุ่นและคนทำงานกะดึก
- มาม่า vs. ไวไว: มาม่ารสชาติกลมกล่อม ในขณะที่ไวไวทำตลาดด้วยความเผ็ดแซ่บ
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์ “ทำตรงข้าม” เป็นแนวทางที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับธุรกิจหลากหลายประเภท และช่วยให้แบรนด์สามารถสร้างเอกลักษณ์ของตัวเองได้
การทำตลาดแบบสร้างความแตกต่าง
Burger King ไม่ได้พยายามเป็น McDonald’s ที่ดีกว่า แต่เลือกเป็น Burger King ที่แตกต่างและชัดเจนกว่า กลยุทธ์การตลาดที่เน้นความแตกต่างจากคู่แข่ง ไม่เพียงแต่ช่วยให้ Burger King แข่งขันในตลาดที่มีความหนาแน่นสูงได้ แต่ยังช่วยให้แบรนด์สามารถยืนหยัดและเติบโตได้ในระยะยาว
แนวคิดนี้สามารถเป็นบทเรียนสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าสู่ตลาดที่มีคู่แข่งรายใหญ่ การพยายามเป็น “เบอร์หนึ่ง” อาจไม่ใช่คำตอบเสมอไป แต่การสร้างจุดขายที่แตกต่างและชัดเจน อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการสร้างความสำเร็จ
อย่ารอช้า! สนใจผลิตอุปกรณ์ออกบูธ และกล่องแพคเกจจิ้ง ติดต่อโรงพิมพ์ Tumtook ได้เลยทันที!
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook