หนึ่งในคำถามที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญอยู่เสมอคือ จะตั้งราคาสินค้าอย่างไรให้เหมาะสม? ระหว่างการขายของที่ได้กำไรต่อชิ้นสูงแต่ขายได้น้อย หรือการขายของที่กำไรต่อชิ้นต่ำแต่ขายได้ปริมาณมาก คำตอบของคำถามนี้อาจไม่มีสูตรตายตัว เพราะทุกธุรกิจล้วนมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาแตกต่างกัน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเข้าใจกลุ่มเป้าหมายและรูปแบบธุรกิจของคุณเอง
กรณีศึกษา ตัวอย่างการขายให้ได้กำไร
บทเรียนจาก เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ แห่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ผู้ใช้แนวคิดขายกำไรน้อยแต่เข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมาก จนทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ย้อนกลับไปเมื่อ 40-50 ปีก่อน รายได้ของคนไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างต่ำ การบริโภคเนื้อไก่ในเวลานั้นเป็นสิ่งที่คนทั่วไปมองว่าเป็น “อาหารของคนรวย” ทำให้แทนที่จะตั้งราคาไก่ให้สูงเพื่อให้ได้กำไรต่อชิ้นมาก เจ้าสัวธนินท์เลือกลดต้นทุนการเลี้ยงไก่ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพ จนทำให้ต้นทุนต่ำลงอย่างมหาศาล จากเดิมที่เลี้ยงได้เพียง 1,000 ตัว ก็เพิ่มเป็น 170,000 ตัวในปัจจุบัน ด้วยต้นทุนที่ลดลง ไก่จึงสามารถขายในราคาที่เข้าถึงคนทุกกลุ่มได้ แม้กำไรต่อชิ้นจะน้อย แต่ปริมาณการขายที่มากขึ้นทำให้รายได้รวมสูงขึ้น
แบรนด์ดิ้ง สร้างมูลค่าผ่านราคาที่สูง
การขายสินค้าราคาสูงก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นสิ่งที่ผิด ตัวอย่างเช่นสินค้าแบรนด์เนมอย่าง Chanel หรือ Hermès ซึ่งตั้งราคาสูงเพื่อสะท้อนถึงความหรูหราและคุณค่าทางจิตใจของสินค้า การตั้งราคาต่ำอาจทำให้ลูกค้าสงสัยในคุณภาพและทำให้มูลค่าของแบรนด์ลดลงได้ การขายสินค้าเหล่านี้มักมุ่งเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มเฉพาะ ผู้ที่ยินดีจ่ายเพื่อแลกกับประสบการณ์และสถานะที่สินค้านั้นมอบให้
ปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงในการตั้งราคา
- กลุ่มเป้าหมายคือใคร?
การเข้าใจลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากลูกค้าของคุณเป็นกลุ่มที่เน้นคุณภาพและยินดีจ่ายเพื่อความพรีเมียม การตั้งราคาสูงจะเหมาะสมกว่า แต่ถ้าคุณต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก การขายสินค้าราคาย่อมเยาก็อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม - ต้นทุนและเงินทุน
ธุรกิจที่มีต้นทุนการผลิตต่ำสามารถตั้งราคาที่แข่งขันได้ และดึงดูดลูกค้าในวงกว้าง แต่สำหรับสินค้าที่มีต้นทุนสูง คุณอาจต้องคำนวณราคาที่สะท้อนถึงคุณภาพและสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ด้วย - จุดประสงค์และภาพลักษณ์ของแบรนด์
หากคุณต้องการสร้างการรับรู้ในตลาดและดึงดูดลูกค้า การตั้งราคาที่เข้าถึงได้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ธุรกิจเป็นที่รู้จัก แต่ถ้าคุณเป็นแบรนด์ที่มุ่งสร้างภาพลักษณ์พรีเมียม ราคาสินค้าที่สูงจะช่วยตอกย้ำคุณค่าของแบรนด์ - ประเภทสินค้า
สินค้าที่ตัดสินใจซื้อได้ทันที เช่น อาหารหรือสินค้าใช้ในชีวิตประจำวัน มักจะเหมาะกับการตั้งราคาย่อมเยา แต่สำหรับสินค้าใหญ่ ๆ อย่างบ้าน รถยนต์ หรือเครื่องประดับ การสร้างมูลค่าผ่านราคาสูงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่มีวิธีใดที่เหมาะกับทุกธุรกิจแบบตายตัว เพราะการตั้งราคาขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งกลุ่มเป้าหมาย ต้นทุน จุดประสงค์ และภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกขายของแพงหรือของถูก อย่าลืมว่าการขายที่แท้จริงคือการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า เมื่อพวกเขารู้สึกพึงพอใจกับสินค้าและบริการของคุณ พวกเขาจะกลายเป็นลูกค้าประจำที่พร้อมสนับสนุนคุณในระยะยาว
อย่ารอช้า! สนใจผลิตอุปกรณ์ออกบูธ และกล่องแพคเกจจิ้ง ติดต่อโรงพิมพ์ Tumtook ได้เลยทันที!
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook