ขายของออนไลน์ ขายที่ไหนให้รวย แต่ละที่มีข้อดีอย่างไร

ขายของออนไลน์

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าใครก็ผันตัวมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์กันหมด ไม่ว่าจะเป็น พ่อค้ารองเท้า, เสื้อผ้า, แม่ค้าขายครีม, อาหารเสริม, หรือแม้แต่ร้านค้าและร้านอาหารบางประเภท ก็ยังได้หันมาหาวิธีขายของบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ให้กับกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ในปัจจุบันกันมากขึ้น แต่หลายคนคงจะอยากรู้กันแล้วว่าขายของออนไลน์ที่ไหนถึงจะดีที่สุด และการขายสินค้าในแต่ละที่มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง สามารถไปหาคำตอบพร้อมเปิดร้านขายของออนไลน์ด้วยกันได้เลยค่ะ

ขายของออนไลน์ ขายที่ไหนดี แต่ละที่มีความแตกต่างกันอย่างไร

  • Shopee / LAZADA

แพลตฟอร์มขายของชื่อดังและยอดนิยม ที่ทุกคนล้วนรู้จักและมีผู้ใช้บริการกันมากที่สุด หลังจากการเปิดตลาดขายของออนไลน์ในประเทศไทยได้มากที่สุด ก็ทำให้มีพ่อค้าแม่ค้าร่วมหันมาขายสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น เนื่องจากแพลตฟอร์มทั้งสองจะสามารถแนะนำสินค้าของเราให้กับลูกค้าได้หลายช่องทาง และยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านได้จากรีวิวของลูกค้า Shopee และ LAZADA จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด หากแต่ทั้งในทางกลับกัน ทั้งสองแพลตฟอร์มก็มีการหัก % ค่าบริการที่เพิ่มมากขึ้น และด้วยระบบการขายของที่สามารถใช้ส่วนลดหรือเลือกผ่อนสินค้าได้ ก็อาจทำให้ร้านค้าไม่สามารถรับเงินเต็มจำนวนได้ในทันที การขายสินค้าบน Shopee และ LAZADA จึงควรตรวจสอบเรื่องรายรับและรายจ่ายให้มากก่อนตัดสินใจลงทุน

  • Grab / Line Man / Food Panda

ไม่ว่าใครก็สามารถเปลี่ยนบ้านให้เป็นร้านอาหารได้ สำหรับผู้ที่เปิดร้านอาหารหรือมีฝีมือในการทำอาหารอยู่ที่บ้าน ก็สามารถเลือเปิดร้านขายอาหารออนไลน์กับแพลตฟอร์มยอดนิยมต่างๆ สำหรับการขายอาหารให้กับผู้คนที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ซึ่งสามารถมีโอกาสสร้างยอดขายได้ทุกวันโดยเฉพาะกับพนักงานเงินเดือนที่นิยมสั่งอาหารมาทานที่บริษัทกันมากขึ้น แต่ในแพลตฟอร์มขายอาหารนี้ก็ยังมีการจำกัดราคาอาหารขั้นต่ำที่ลูกค้าต้องการสั่งที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน หากใครจะเปิดร้านอาหารออนไลน์ก็ควรพิจารณาให้ดีว่าจะขายอาหารในจำนวนและราคาเท่าไหร่

  • Instagram / tiktok

นอกจากจะเป็นแพลตฟอร์มความบันเทิงยอดนิยมแล้ว ทั้งสองแพลตฟอร์มยังได้รับความนิยมในการขายสินค้าออนไลน์มาก โดยเฉพาะกับแม่ค้า Live สด ที่จะนำสินค้าลดราคามาขาย และสามารถกดสั่งซื้อได้ทันที ทำให้สามารถเพิ่มยอดผู้ติดตามได้มากและขายสินค้าได้อย่างง่ายดาย เพียงแต่ทั้งสองแพลตฟอร์มนี้จะเน้นการ Live หรือใช้สื่อวีดีโอและภาพเป็นหลัก ผู้ที่จะขายสินค้าทางด้านนี้จึงต้องมีความสามารถในการทำสื่อวีดีโอเพื่อสร้างความสนใจให้ลูกค้าได้

  • Facebook

Facebook ยังคงเป็นสื่อ Social Network ที่คนไทยนิยมใช้กันมากที่สุด ซึ่งเจ้าของร้านสามารถขายสินค้าได้จากการเปิด Page, การขายสินค้าใน Market Place, และในกลุ่มขายของเฉพาะกลุ่ม ซึ่งสามารถสร้างประวัติการขายให้เป็นที่รู้จักได้ และยังสามารถสร้างกลุ่มผู้ติดตามให้กับร้านได้ในอีกช่องทางหนึ่ง แต่ต้องอาศัยการโฆษณาให้ร้านเป็นที่รู้จักอยู่สักหน่อย เพื่อให้การแสดงสินค้าและหน้า Page ของร้าน ปรากฏให้ลูกค้าเห็นมากขึ้น

  • X (Twitter)

อีกหนึ่งสังคมออนไลน์ ที่ยังคงมีขายสินค้ากันเล็กๆ เฉพาะกลุ่มอยู่ เนื่องด้วยข้อจำกัดของจำนวนข้อความและภาพที่สามารถลงได้ การขายสินค้าบนช่องทางนี้จึงเหมาะกับการขายสินค้าเล็กๆ และผู้ขายต้องรู็จักการใช้ Tag ให้เป็น เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าให้เจอ

  • Line

แพลตฟอร์มสื่อสารยอดนิยมของคนไทย โดยเฉพาะกับกลุ่มสมาคมแม่บ้านสวัสดีวันจันทร์ บางร้านค้าหรือร้านอาหาร ได้ใช้วิธี Add Line เพื่อสร้างกลุ่มติดต่อสื่อสารขึ้นมา ซึ่งสามารถส่งข้อมูลสินค้าพิเศษ และติดต่อซื้อขายได้ในทันที หากสามารถแนะนำ Line ให้ลูกค้ากดติดตามมาได้ ก็จะเป็นช่องทางการโฆษณาและการขายสินค้าได้ตลอดเวลา โดยที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเลย

การขายของออนไลน์นั้นมีความสะดวกสบาย และสามารถทำได้หลายที่มากในปัจจุบัน ถึงแม้จะเห็นว่าในทุกแพลตฟอร์มล้วนมีเงื่อนไขการขายแตกต่างกันไป แต่การขายสินค้าออนไลน์ก็สามารถช่วยประหยัดได้ทั้งเวลาและไม่ต้องเสียเงินเช่าสถานที่เลย ผู้ที่สนใจลงตลาดขายสินค้าออนไลน์ จึงควรศึกษาวิธีการใช้งานแต่ละแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับการขายของตัวเอง ก่อนที่จะลงทุนเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ทำยอดขายได้รายวันค่ะ


สนใจติดต่อผลิตสินค้าแพคเกจจิ้ง และอุปกรณ์ออกบูธ
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook

Comment Box

บทความดีๆที่แนะนำ

ป้าย J Flag เป็นป้ายโฆษณาที่มีลักษณะเป็นขาตั้งธงญี่ปุ่น...

โบรชัวร์ (Brochure) และ แผ่นพับ (Flyer) ล้วนเป็นสื่อสิ่...

ผู้ประกอบการธุรกิจหลายท่านที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจ SME ...

สมัครงาน กับ Tumtook

กรอกข้อมูลให้สมบูรณ์