เทคนิคการจับคู่ฟอนต์ ยกระดับความพรีเมี่ยมให้กับแบรนด์

เทคนิคจับคู่ฟอนต์ ให้แบรนด์โดดเด่น

การออกแบบด้วยการจับคู่ฟอนต์ หรือ การจับคู่ตัวหนังสือ (Font Pairing) ถือเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญของการทำกราฟฟิกและการออกแบบเว็บ เพราะงานออกแบบที่ดีต้องมีการผสมผสานความแตกต่างให้ลงตัว ซึ่งการออกแบบชนิดนี้ จะทำให้ผลงานของเราโดดเด่นขึ้น จนทุกคนต้องหลงรัก วันนี้เราจึงมาแนะนำเทคนิคการออกแบบจับคู่ฟอนต์ ที่จะยกระดับงานกราฟฟิกให้ออกมาเป็นผลงานมาสเตอร์พีชอันสุดพิเศษ

เคล็ดลับในการจับคู่ฟอนต์อย่างมีประสิทธิภาพ

  • เริ่มจากฟอนต์ตระกูลเดียวกัน

วิธีง่ายๆ ในการจับคู่ฟอนต์ให้เข้ากันได้ดี คือการเริ่มต้นจากฟอนต์ที่เป็นครอบครัวเดียวกัน เพราะฟอนต์แบบนี้จะมีน้ำหนักและสไตล์อันหลากหลายที่เข้ากันได้ดี (เช่น ปกติ, หนา, ตัวเอียง ฯลฯ) ทำให้การจับคู่ฟอนต์ง่ายขึ้น เช่น

การใช้ฟอนต์หนาสำหรับหัวข้อ และฟอนต์ปกติสำหรับเนื้อหาจะช่วยสร้างความน่าสนใจรวมทั้งยังช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหา และจดจำได้ง่ายขึ้น

  • จับคู่ฟอนต์ Serif และ Sans-serif

การจับคู่ฟอนต์เซริฟ (Serif) สำหรับหัวข้อ และฟอนต์แซนส์เซริฟ (Sans-serif) สำหรับเนื้อหา จะสร้างความแตกต่างให้อ่านง่ายขึ้น เช่น การจับคู่สุดคลาสสิกด้วย ฟอนต์เซริฟ ชนิด Times New Roman และ ชนิด Georgia ที่จะให้ความรู้สึกดั้งเดิมและเป็นทางการได้ดี

ในขณะที่ฟอนต์แซนส์เซริฟ ชนิด Arial และ Helvetica จะทำให้ดูสะอาดตาและทันสมัยสูง

การจับคู่พวกนี้เป็นการสร้างความสมดุลระหว่างความเก่าและใหม่ ซึ่งทำให้อ่านง่าย และอ่านได้สนุกอีกด้วย

  • จับคู่ฟอนต์ที่ดูตรงกันข้าม

การจับคู่ฟอนต์หนา กับ ฟอนต์ที่บางและเบา จะช่วยสร้างความแตกต่างที่ชัดเจน ซึ่งเป็นการเน้นความสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ฟอนต์แซนส์เซริฟหนาสำหรับหัวข้อและฟอนต์เซริฟบางๆ สำหรับเนื้อหา จะทำให้หัวข้อเด่นขึ้นโดยไม่ทำให้เนื้อหาดูเบียดเบียนกัน

  • จับคู่ฟอนต์ที่มีความสูงตัวอักษร ‘x’ คล้ายกัน

ความสูงของตัวอักษร ‘x’ (X-height) หมายถึงความสูงของตัวอักษรพิมพ์เล็กในฟอนต์ การจับคู่ฟอนต์ที่มี X-height คล้ายกันจะทำให้ฟอนต์ดูสมดุลและเป็นระเบียบ แต่ถ้าจับคู่ฟอนต์ที่มี X-height ต่ำกับฟอนต์ที่มี X-height สูง จะทำให้ลุคโดยรวมดูไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นการปรับขนาดฟอนต์ให้เท่ากันก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญเหมือนกัน

  • ไม่ใช้ฟอนต์มากเกินไป

บางคนอาจจะอยากลองใช้ฟอนต์หลายๆ ตัว แต่การใช้ฟอนต์มากเกินไป จะทำให้การออกแบบดูยุ่งเหยิงและรกตาได้ ดังนั้นควรยึดการใช้ฟอนต์ไม่เกินสองหรือสามตัวให้เข้ากันได้ก็เพียงพอแล้ว เพราะการใช้ฟอนต์มากเกินไปจะทำให้ข้อความสูญเสียความชัดเจนและกลายเป็นการลดความสนใจจากเนื้อหาหลักไปในทันที

  • ทดสอบฟอนต์บนขนาดหน้าจอที่แตกต่างกัน

เราควรทดสอบฟอนต์บนอุปกรณ์ที่มีขนาดหน้าจอแตกต่างกันเพื่อให้มั่นใจว่าอ่านได้ชัดเจนและสบายตา เพราะฟอนต์ที่ดูดีบนคอมพิวเตอร์อาจไม่เหมาะกับการใช้งานบนมือถือ ดังนั้นจึงควรพรีวิวการออกแบบบนหลายๆ อุปกรณ์เพื่อคอยตรวจสอบถึงความสะดวกในการอ่าน

ตัวอย่างการจับคู่ฟอนต์สวยๆ

ตัวอย่างการจับคู่ฟอนต์สุดสะดุดตา

  • Montserrat (sans-serif) + Merriweather (serif)

Montserrat เป็นฟอนต์แซนส์เซริฟที่ดูทันสมัยและสะอาดตา ส่วน Merriweather เป็นฟอนต์เซริฟที่อ่านง่ายและมีความคลาสสิก การจับคู่นี้สร้างความแตกต่างได้อย่างดูดีและยังคงความชัดเจนในการอ่านอีกด้วย

  • Lora (serif) + Open Sans (sans-serif)

Lora เป็นฟอนต์เซริฟที่ดูมีเสน่ห์และน่าอ่าน ส่วน Open Sans เป็นฟอนต์แซนส์เซริฟที่อ่านง่ายและมีความยืดหยุ่น จับคู่กันได้ดีทั้งในหัวข้อและเนื้อหา

  • Playfair Display (serif) + Source Sans Pro (sans-serif)

Playfair Display เป็นฟอนต์เซริฟที่ดูหรูหราและมีคอนทราสต์สูง เหมาะสำหรับใช้เป็นหัวข้อ ส่วน Source Sans Pro เป็นฟอนต์แซนส์เซริฟที่สะอาดและทันสมัย เหมาะสำหรับเนื้อหาหรือข้อความยาว

  • Roboto (sans-serif) + Slabo 27 px (serif)

Roboto เป็นฟอนต์แซนส์เซริฟที่ได้รับความนิยมมาก ส่วน Slabo 27 px มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและสวยงาม เมื่อจับคู่กันจะทำให้การอ่านและความสวยงามดูสมดุลได้เป็นอย่างดี

จากการออกแบบด้านการจับคู่ฟอนต์ หรือตัวหนังสือ จะเห็นว่า ความแตกต่างของฟอนต์ที่ดูเข้ากันได้ จะเพิ่มความน่าดึงดูดในการอ่าน และทำให้อ่านได้ง่ายขึ้น นี่จึงทำให้การออกแบบจับคู่ฟอนต์มีความนิยมสูง ใช้กันทั่วไปจนเป็นอีกหนึ่งการออกแบบที่สำคัญในปัจจุบัน


สนใจติดต่อผลิตสติ้กเกอร์แบนเนอร์
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook

Comment Box

บทความดีๆที่แนะนำ

กล่องลูกฟูก และกล่องลังกระดาษ เป็นประเภทของกล่องที่มักใ...

หากต้องการสั่งพิมพ์ ถุงกระดาษที่มีรูปแบบของการผลิต ถุงอ...

กระดาษห่อสินค้า เป็นกระดาษบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยสร้างประสบกา...

สมัครงาน กับ Tumtook

กรอกข้อมูลให้สมบูรณ์