ธุรกิจทุกประเภท ต้องเผชิญกับความท้าทายทางการเงินเพิ่มขึ้น เมื่อรัฐบาลเตรียมจ่อเพิ่มภาษีขึ้น 15% บทความนี้จะแนะนำ 5 วิธีปรับตัวเมื่อภาษีเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น และทำให้การบริหารจัดการต้นทุน รวมถึงการวางแผนธุรกิจสอดคล้องกับการขายได้
วิธีปรับแผนธุรกิจของร้านค้า เมื่อภาษีเพิ่มสูงขึ้น
1. ลดต้นทุนสินค้า
การลดต้นทุน เป็นวิธีที่ช่วยลดผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้นได้โดยตรง
แนวทางการลดต้นทุน:
- ทบทวนซัพพลายเออร์: เปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่งเพื่อหาซัพพลายเออร์ที่ให้ข้อเสนอคุ้มค่าที่สุด
- ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น: เช่น การเปลี่ยนสถานที่ตั้งร้าน หรือตัดสินใจเช่าพื้นที่ที่มีต้นทุนต่ำกว่า
2. เปลี่ยนช่องทางขาย
การเปลี่ยนช่องทางการขาย หรือเพิ่มช่องทางใหม่ ช่วยกระจายความเสี่ยงและขยายฐานลูกค้าได้มากกว่าเดิม
ตัวอย่างการเปลี่ยนช่องทางขาย:
- ขายออนไลน์: ลดต้นทุนการเช่าหน้าร้าน และขยายกลุ่มลูกค้าในตลาด Online ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก
- เข้าร่วมแพลตฟอร์ม Marketplace: เช่น Shopee, Lazada ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตลอดเวลา
- เจาะกลุ่มเฉพาะ (Niche Market): เน้นขายในช่องทางที่ลูกค้าต้องการสินค้าโดยเฉพาะ
3. ลดปริมาณสินค้าในคลัง
การลดปริมาณสินค้าคงคลัง สามารถช่วยลดต้นทุนและเพิ่มสภาพคล่องตัวในการขายได้
วิธีจัดการคลังสินค้า:
- วางแผนการขายตามความต้องการ: ขายสินค้าเท่าที่จำเป็นตามความต้องการของลูกค้า เพื่อลดความเสี่ยงของสินค้าค้างสต็อก
- จัดโปรโมชั่นระบายสินค้า: ขายสินค้าที่เก็บไว้นาน เพื่อลดพื้นที่จัดเก็บและเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนให้มากขึ้น
4. ปรับแผนการตลาดใหม่
เมื่อภาษีเพิ่มขึ้น พฤติกรรมของผู้บริโภคอาจเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน จึงควรปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบันด้วยเช่นกัน
กลยุทธ์การตลาดที่ควรพิจารณา:
- เพิ่มมูลค่าสินค้า ในราคาเท่าเดิม: เสนอโปรโมชั่นหรือของ เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการซื้อ
- เน้นการตลาดออนไลน์: ใช้สื่อโซเชียลและโฆษณาออนไลน์ เพื่อลดต้นทุนการโฆษณาแบบเดิมๆ
- สร้างแคมเปญที่เน้นความคุ้มค่า: เช่น โปรซื้อ 1 แถม 1 หรือส่วนลดสำหรับลูกค้าประจำ
5. ขายสินค้าที่ไม่กระทบการขึ้นภาษี
หากสินค้าหรือบริการบางประเภท ไม่ถูกผลกระทบจากการเพิ่มภาษี ควรลองเน้นขายที่สินค้ากลุ่มดังกล่าวเป็นหลัก
ตัวอย่างการปรับสินค้า:
- เน้นการสินค้าทั่วไป: เช่น อาหารแห้ง หรือสินค้าที่มีอัตราภาษีต่ำ
- มุ่งเน้นการทำกำไรให้สูงขึ้น: เน้นขายสินค้าที่ต้นทุนต่ำแต่กำไรดี
- เพิ่มบริการ: เช่น บริการหลังการขาย หรือการทำระบบสมัครสมาชิก
สรุป
เมื่อภาษีเพิ่มขึ้น การรู้จักวิธีปรับตัวอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดได้ การลดต้นทุน เปลี่ยนช่องทางขาย จัดการคลังสินค้า ปรับแผนการตลาด และเน้นขายสินค้าที่ไม่กระทบภาษีเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยลดผลกระทบและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี
อย่ารอช้า! สนใจผลิตแพคเกจจิ้ง และอุปกรณ์ออกบูธ ติดต่อหาเราได้เลยทันที!
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook