5 Awareness ของลูกค้าที่ควรรู้ กุญแจสู่กลยุทธ์การตลาด

Awareness ของลูกค้า 5 ระดับ ที่ควรรู้ เพื่อกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม

การทำตลาดไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การนำเสนอสินค้าให้ลูกค้าเห็นเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจว่าลูกค้าแต่ละคนมีระดับความตระหนักรู้ (Customer Awareness) ที่แตกต่างกัน การเข้าใจ Awareness ลูกค้า 5 ระดับ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถออกแบบกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างเหมาะสม และนำไปสู่การปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แนวคิดนี้มาจาก Eugene Schwartz นักการตลาดระดับตำนานที่อธิบายว่า ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าตามระดับความตระหนักรู้ของตนเอง หากธุรกิจสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ตรงกับระดับที่พวกเขาอยู่ ก็จะเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น

Awareness ของลูกค้าทั้ง 5 ระดับ

1. Unaware (ไม่รู้ตัวว่ามีปัญหา)

ลูกค้าในระดับนี้ ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองมีปัญหาหรือความต้องการ และยังไม่ได้สนใจสินค้าหรือบริการใด ๆ ธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มนี้ ต้องเน้นการให้ความรู้และสร้างความตระหนักรู้ เพื่อทำให้พวกเขาเริ่มตระหนักว่ามีปัญหาที่ต้องแก้ไข ตัวอย่างเช่น บริษัทผลิตเครื่องกรองอากาศอาจสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับ “ผลกระทบของฝุ่นละอองขนาดเล็กที่มีต่อสุขภาพโดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว”

ตัวอย่างกลยุทธ์:

  • ใช้ คอนเทนต์เชิงให้ความรู้ เช่น บทความหรือวิดีโอที่ช่วยให้ลูกค้าเริ่มตระหนักถึงปัญหาที่พวกเขามี
  • สร้าง Brand Awareness ผ่านโฆษณาเชิงให้ความรู้โดยไม่พุ่งเป้าไปที่การขายโดยตรง
  • ใช้ Storytelling ในการเล่าเรื่องปัญหาที่ลูกค้าอาจเผชิญโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว

2. Problem-Aware (รู้ตัวว่ามีปัญหา แต่ยังไม่รู้วิธีแก้ไข)

ลูกค้าในระดับนี้เริ่มตระหนักว่าตนเองมีปัญหา แต่ยังไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไร พวกเขาอาจกำลังมองหาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหานั้นให้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น การขายโปรแกรมบัญชีออนไลน์ สามารถทำบทความ “5 ปัญหาที่ธุรกิจขนาดเล็กต้องเจอเมื่อไม่มีระบบบัญชีที่ดี”

ตัวอย่างกลยุทธ์:

  • ให้ข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับปัญหา พร้อมอธิบายแนวทางการแก้ไข
  • ใช้ SEO และบทความให้ความรู้ ที่ช่วยตอบคำถามของลูกค้า
  • จัดทำ Checklist หรือ Ebook เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถประเมินปัญหาของตัวเองได้

3. Solution-Aware (รู้ว่ามีวิธีแก้ปัญหา แต่ยังไม่รู้จักแบรนด์ของคุณ)

ลูกค้ากลุ่มนี้รู้แล้วว่ามีวิธีแก้ปัญหา แต่ยังไม่รู้จักสินค้าหรือบริการของคุณโดยตรง พวกเขาอาจกำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆ ตัวอย่างเช่น ขายซอฟต์แวร์ CRM อาจทำบทความ “เปรียบเทียบ 3 ซอฟต์แวร์ CRM ยอดนิยม: แบบไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณ?”

ตัวอย่างกลยุทธ์:

  • ใช้ Comparison Content หรือบทความเปรียบเทียบสินค้าหรือวิธีแก้ปัญหาต่าง ๆ
  • ทำ Case Study หรือรีวิวจากลูกค้าจริง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
  • ใช้ โฆษณาที่ชี้ให้เห็นจุดเด่นของสินค้า และความแตกต่างจากตัวเลือกอื่น ๆ

4. Product-Aware (รู้จักสินค้าของคุณ แต่ยังไม่มั่นใจว่าควรซื้อไหม)

ลูกค้าในระดับนี้รู้จักแบรนด์และสินค้าของคุณแล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกซื้อหรือไม่ พวกเขาอาจกำลังเปรียบเทียบราคาหรือมองหาความคุ้มค่าเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น หากขายคอร์สเรียนออนไลน์ อาจเสนอ “ทดลองเรียนฟรี 3 บทเรียนแรก” เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจก่อนซื้อ

ตัวอย่างกลยุทธ์:

  • เสนอ โปรโมชั่น หรือทดลองใช้งานฟรี เพื่อช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
  • ใช้ รีวิวจากลูกค้า หรือ Social Proof เพื่อเสริมความมั่นใจ
  • ทำ Retargeting Ads เพื่อย้ำเตือนและดึงดูดลูกค้าให้กลับมาพิจารณาสินค้าของคุณอีกครั้ง

5. Most Aware (รู้จักและต้องการซื้อ แต่ต้องการข้อเสนอที่ดีที่สุด)

ลูกค้าในระดับนี้พร้อมซื้อแล้ว แต่พวกเขาอาจรอโปรโมชั่นหรือข้อเสนอที่ดีที่สุดก่อนตัดสินใจ ตัวอย่างเช่น การขายสมาร์ทโฟน อาจเสนอ “ซื้อวันนี้ รับฟรีเคสกันกระแทก และส่วนลดค่าอุปกรณ์เสริม 10%”

ตัวอย่างกลยุทธ์:

  • ใช้ Limited-Time Offer หรือโปรโมชั่นที่มีระยะเวลาจำกัดเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ
  • เสนอ Bundle Deal หรือข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าประจำ
  • ใช้ กลยุทธ์ Upselling และ Cross-Selling เพื่อเพิ่มมูลค่าการซื้อ

สรุป การทำการตลาดให้เหมาะกับระดับ Awareness ของลูกค้า

ความเข้าใจเกี่ยวกับ Customer Awareness 5 ระดับ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถออกแบบการสื่อสารทางการตลาดให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น

  1. Unaware ควรให้ความรู้และสร้างการรับรู้
  2. Problem-Aware ควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางแก้ไข
  3. Solution-Aware ควรเปรียบเทียบทางเลือกและนำเสนอจุดเด่นของแบรนด์
  4. Product-Aware ควรใช้รีวิวและข้อเสนอพิเศษกระตุ้นการตัดสินใจ
  5. Most Awareควร เสนอโปรโมชั่นและ Upsell เพื่อเพิ่มมูลค่าการซื้อ

ธุรกิจที่สามารถระบุระดับ Awareness ของลูกค้าและออกแบบกลยุทธ์ที่เหมาะสม จะสามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ปิดการขายได้เร็วขึ้น และสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้าในระยะยาว


อย่ารอช้า! สนใจผลิตอุปกรณ์ออกบูธ และกล่องแพคเกจจิ้ง ติดต่อโรงพิมพ์ Tumtook ได้เลยทันที!
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook

Comment Box

บทความดีๆที่แนะนำ

แบคดรอปผ้า หรือ Fabricbackdrop เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยสร้างบ...

ป้ายแบคดรอป เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญสำหรับงานอีเวนต์ ...

เคาน์เตอร์บูธขายของ จะสามารถรับน้ำหนักได้เท่าไหร่บ้างขึ้นอยู่กับประเภทและวัสดุที่นำมาใช้ผลิตเคาน์เตอร์บูทขายของ ตลอดจนสินค้าที่จะนำมาวางบน เคาน์เตอร์ออกบูธ

แฟ้ม (File Folder) คือโฟลเดอร์จัดเก็บและรวบรวมเอกสารต่า...

สมัครงาน กับ Tumtook

กรอกข้อมูลให้สมบูรณ์