ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหารายได้เสริมเกี่ยวกับการขายสินค้า ที่สะดวกไม่ต้องลงทุนมาก เราขอแนะนำการขายสินค้าด้วย ระบบ Dropship ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน รูปแบบการขายก็คือ เรานำสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ที่จำหน่ายสินค้า แล้วเปิดรับตัวแทนจำหน่ายสินค้านั่นเอง

Dropship เป็นรูปแบบธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ผู้ขายไม่ต้องจัดเก็บสินค้าในคลังของตนเอง แต่จะส่งคำสั่งซื้อไปยังซัพพลายเออร์หรือผู้ผลิตโดยตรงเมื่อมีการสั่งซื้อจากลูกค้า ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดการสินค้าและคลังสินค้า การเริ่มต้นธุรกิจ Drop shipping สามารถทำได้โดยการเลือกสินค้าที่ต้องการขาย, หาซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ และสร้างเว็บไซต์หรือใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อจำหน่ายสินค้า

ธุรกิจ Dropship เริ่มต้นทำได้อย่างไร

• ทำการประกาศขายหรือโพสต์ลงในร้านค้าออนไลน์ของเราเอง โดยเราสามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้หลายช่องทาง เช่น เปิดเว็บไซด์ที่มีให้เลือกแบบฟรีและเสียเงิน, เปิดร้านผ่านสื่อออนไลน์อย่าง facebook, twitter, Line และ Instagram เป็นต้น
• เมื่อจำหน่ายสินค้าได้แล้ว ทางร้านที่เราติดต่อไว้จะเป็นผู้ส่งสินค้าในสต๊อคให้ลูกค้าที่สั่งซื้อในนามของร้านเรา แล้วเราจะได้รับค่าส่วนต่างเป็นผลกำไร เปรียบเสมือนเป็นตัวกลางในการซื้อขายสินค้า ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ร้านสดใสจำหน่ายรองเท้าคู่ละ 200 บาท

• ทางร้านจะขายให้ผู้ที่ทำ Dropship กับทางร้านในราคา 150 บาท เราก็แค่นำไปขายต่อ 200 – 250 บาท เมื่อมีการสั่งสินค้าหลังจากลูกค้าโอนเงินแล้ว เราก็ทำการโอนเงินค่าสินค้า 150 บาท ตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ให้กับร้านสดใส เงินส่วนต่างที่เหลือเราจะเป็นคนเก็บไว้ ถือเป็นผลกำไรในการขาย
• จะเห็นได้ว่าได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เพราะทางร้านสดใสอย่างที่ยกตัวอย่างข้างต้นก็สามารถขายสินค้าได้ ส่วนเราก็ได้เงินส่วนต่างเป็นผลกำไร หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วร้านที่ ทำธุรกิจ Dropship จะได้กำไรจากตรงไหน จริงๆ แล้วทางร้านเป็นผู้สต๊อคสินค้าไว้จำนวนหนึ่งซึ่งจะมีต้นทุนที่ถูกกว่าปกติอยู่แล้ว เพราะส่วนใหญ่โรงงานผู้ผลิตสินค้าถ้ายิ่งสั่งมากส่วนลดก็จะเยอะตามไปด้วย ทางร้านนำมาปล่อยต่อหรือนำมาทำเป็นระบบ Dropship จึงสามารถจำหน่ายในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดได้ เมื่อตัวแทนมาซื้อไปจำหน่ายต่อในระบบ Dropship ราคาจึงไม่สูงมากหรืออาจถูกว่าท้องตลาด

การทำธุรกิจ Dropship จะมีความเสี่ยงอยู่ตรงที่เราต้องเลือกร้านหรือผู้ผลิตที่เชื่อถือได้เพียงเท่านั้น และควรมีสถานที่ตั้งเป็นหลักแหล่ง เปิดทำธุรกิจด้านนี้มาเป็นระยะเวลาพอสมควร เพราะถ้าผู้ผลิตส่งสินค้าไม่ได้มาตรฐานหรือโอนเงินแล้วไม่ส่งสินค้า ตัวแทนขายอย่างเราอาจจะต้องเสียเงินรับผิดชอบในส่วนนี้ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกผู้ผลิตอย่าลืมพิจารณากันให้ดี ๆ  

สนใจติดต่อผลิตสินค้าแพคเกจจิ้ง และอุปกรณ์ออกบูธ
คลิ๊ก >> Tumtook.com/Addline
Add Line : @Tumtook